หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

๑.๓ ขอบจักรวาล

๑.๓ ขอบจักรวาล

นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ขอบจักรวาลมี 2 ชั้น ชั้นในกำลังขยายออกด้วยความเร็วแสง ซึ่ง ณ ชั้นนี้เปรียบเสมือนกรอบด้านในที่คอยกันไม่ให้มวลสารและคลื่นทุกชนิดหลุดออกไป ถ้า เทียบความโน้มถ่วง
และแสงเป็นน้ำในตู้ปลา ตู้ปลานี้จะมีกระจก 2 ชั้น กรอบในของจักรวาลก็เหมือนกับกระจกชั้นในที่กันทุกอย่างไว้ แม้ว่าเราจะสร้างยานอวกาศ ทำความเร็วได้ใกล้แสง เมื่อวิ่งถึงขอบเขตนี้ทุกอย่างจะหยุดลง
ส่วนขอบเขตชั้นนอก อยู่ห่างจากขอบชั้นในหลายล้านปีแสงขอบเขตนี้ขยายตัวด้วยความเร็วสูงกว่าแสง
และเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมความเร็วในการขยาย
ตัวของจักรวาลจึงสูงขึ้นๆ ราวกับว่านอกจักรวาลมีแรงดึงดูดมหาศาลคอยดึงออก
เพราะถ้าจักรวาลเกิดจากบิ๊งแบง แรงส่งจากระเบิดน่าจะ ลดน้อยลงเรื่อยๆ การที่ขอบในของจักรวาล
ขยายตัวด้วยความเร็วแสง ทำให้พลังงานทั้งหมด ในจักรวาลนี้ เช่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง แรงนิวเคลียรืไม่สามารถหลุดรอดออกไปนอกจักรวาลได้ และเช่นเดียวกันขอบของจักรวาลอื่นก็จะต้อง
มีลักษณะเดียวกัน ทำให้ฟองของจักรวาลที่มีจำนวนนับอนันต์ แต่ไม่มีการรบกวนหรือกระทบกระทั่งกันเลย และการที่ขอบจักรวาลมี 2 ชั้น ก็เหมือนกระจกเครื่องบิน ที่เป็นเสมือนระบบรักษาความปลอดภัย
ชั้นยอด การที่ขอบนอกขยายด้วยความเร็วสูงกว่าแสง ทำหน้าที่เป็นเหมือนกันชนซับแรง ในกรณีที่มีอะไรนอกจักรวาลมากระแทก นอกจากนั้นยังกั้นแสงจากจักรวาลอื่นไม่ให้เข้ามาด้วย (ในแต่ละจักรวาลความเร็วแสงไม่เท่ากัน) จากการคำนวณพบว่า แม้เอามวลของดาวทั้งหมดในจักรวาลมารวมกัน มวลนั้นสามารถสร้างความโน้มถ่วงได้เพียงแค่ 1% ของที่จักรวาลควรจะมี และถ้ามีเพียงเท่านี้ ไม่มีทางที่จะโน้มกาล-อวกาศให้เกิดเป็นดาราจักรต่างๆ ได้ แล้วมวลอีก 99% หายไปไหน นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ยังมีสสารมืด มองไม่เห็นในจักรวาลอีกมากมายและภายในสสารมืดอาจจะไม่มีสสารจริงๆ เลยก็ได้ เป็นเพียงพลังงานความโน้มถ่วงที่สูงมาก ซึ่งค้านกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า แรงโน้มถ่วงเกิดจากมวล มีการ
สันนิษฐานว่า แรงโน้มถ่วงจากสสารมืด อาจมาจากมิติอื่นใดจักรวาล
ภายนอกจักรวาลเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้ สตีเฟน ฮอร์กิ้ง นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะบอกว่า เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจินตนาการได้ด้วยสมองมนุษย์ นอกจักรวาล ไม่มีแสง ไม่มีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ไม่มีแรงโน้มถ่วง ไม่มีมวลใดๆ ดังนั้น จึงไม่มีเวลา ไม่มีพื้นที่ การพยายามจินตนาการว่า การขยายตัวของจักรวาลเหมือนลูกโป่งขยายตัวอยู่ ในห้องจึงไม่ถูกต้อง เพราะอากาศในห้องก็เหมือนอากาศภายในลูกโป่ง ถ้าเปรียบเทียบว่าลูกโป่งกำลังขยายตัวอยู่ในน้ำ จะเข้าใจกว่าว่าสถานะภายนอก จักรวาลเป็นคนละเรื่องกับภายในจักรวาลที่เราได้เห็น ได้สัมผัสเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น