๔.๔ แสงกับเวลา
ถ้าแสงมีความเร็วช้าเหมือนเสียง จะทำให้อดีตกลายเป็นอนาคตได้ เช่น เราอยู่บนรถไฟตู้ที่ 2 ได้ยินเสียงคนยิงปืนขึ้นที่หัวขบวน และวินาทีต่อมาได้ยินเสียงปืนดังมาจากทางท้ายขบวนอีกนัด เราจะบอกได้ทันทีเลยว่า คนที่หัวขบวนยิงปืนก่อน แต่ความจริงแล้ว คนที่ท้ายขบวนยิงก่อนเพียงแต่เสียงกว่าจะมาถึงหูเราต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า เลยมาถึงทีหลังเสียงปืนจากหัวขบวน เช่นเดียวกัน ถ้าแสงเดินทางได้เท่าเสียง สมมติว่าเรายืนบนหลังคารถไฟตู้ที่ 2 เราจะเห็นกับตาเลยว่า คนที่อยู่บนหลังคาหัวขบวนยิงปืนก่อนคนที่อยู่ท้ายขบวน (ทั้งๆ ที่ความจริงกลับกัน) ดังนั้น ถ้าเราส่องกล้องในคืนวันหนึ่ง แล้วเห็นดวงดาวระเบิดขึ้นพอดีบนท้องฟ้า เราจะบอกว่าดวงดาวนั้นระเบิดในเวลาที่ส่องกล้องไม่ได้ มันอาจจะระเบิดเมื่อพันปี หมื่นปีที่แล้ว
แต่แสงเพิ่งเดินทางมาถึงตาเรา ถ้าตอนนี้เราส่องกล้องดูที่พื้นผิวของดาวอังคาร ก็จะเห็นดาวอังคารเมื่อประมาน 4 นาทีก่อน
สรุปแล้วสิ่งที่เราเห็นเป็นอดีตทั้งหมด จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระยะห่าง แม้แต่การส่องกระจก กว่าแสงจะเดินทางไปที่กระจกแล้ว สะท้อนเข้าตาเราก็ต้องใช้เวลา ดังนั้น ภาพที่เห็นก็ไม่ใช่ปัจจุบันขณะนั้นแล้ว เหตุที่แสงต้องที่ความเร็วสูงมาก ก็เพื่อทำให้ทุกสิ่งที่เราเห็น อยู่ใกล้ปัจจุบันขณะที่สุด จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแสงมีความเร็วเท่าเสียงคือ 350 เมตรต่อวินาที ผู้ชมบนอัฒจรรย์ในสนามกีฬาตามจุดต่างๆ จะเห็นนักวิ่งเข้าเส้นชัยไม่พร้อมกัน เวลาตัดสินคงจะวุ่นวายน่าดู ถ้าเราสามารถเดินทางเร็วกว่าแสง จะพ้นจากอิทธิพลของแสงในมิตินี้ทันที ในขณะที่ก่อนหน้านั้นแสงไปยืดเวลา จนทำให้เราเห็นแสงเร็วเท่าเดิมตลอด เมื่อหลุดพ้นจากแสงจะเป็นอิสระจากกาลเวลา สภาวะนิพพานอยู่เหนืออิทธิพลของแสงและเวลา ดังนั้น เมื่อบรรลุนิพพาน จะสามารถหยั่งรู้ทุกมิติ ทุกภพภิมิ อยู่ในช่วงปัจจุบันขณะทั้งหมด
เข้าใจทุกอย่าง ทะลุมิติที่แฝงอยู่ในจักรวาล รวมไปถึงบริเวณ
ที่แสงไปไม่ถึงด้วย และเนื่องจากทุกมิติ ทุกภพภูมิ ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของแสงและเวลา เมื่อสามารถกำหนดจิตจนอยู่ที่ปัจจุบันขณะอย่างแท้จริง เท่ากับว่าเอาชนะแสงได้ ความลับของมิติ ภพภูมิอื่นๆ ที่แสงเก็บซ่อนไว้จากตาเนื้อ จะถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นอย่างแจ่มชัด เป็นการผุดรู้ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันขณะเจริญสติวิปัสสนากรรมฐาน ปลาที่อยู่ในตู้จะไม่รู้สึกว่า
กำลังถูกจองจำ เพราะตัวมันไม่สามารถแยยกออกมาจากน้ำได้ ถ้ามีปลาสักตัวสามารถออกมานอกตู้แล้วมองเข้าไป มันจะเข้าใจทันทีว่า เพื่อนๆ มันไม่ได้มีอิสระแต่อย่างใด เช่นเดียวกัน
มนุษย์ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกจองจำ จนกว่าจะมีใครหลุดพ้นจากอิทธิพลของแสงและเวลา แล้วมองกลับเข้าไปจึงจะรู้ว่า เหล่าสรรพสัคว์ทั้งหลายล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย น่าเวทนายิ่งนักและสภาวะที่สามารถพ้นจากวงจรนี้มีอยู่จริง ซึ่งพระองค์ก็ทรงค้นพบแล้ว
เข้าใจทุกอย่าง ทะลุมิติที่แฝงอยู่ในจักรวาล รวมไปถึงบริเวณ
ที่แสงไปไม่ถึงด้วย และเนื่องจากทุกมิติ ทุกภพภูมิ ล้วนอยู่ภายใต้อิทธิพลของแสงและเวลา เมื่อสามารถกำหนดจิตจนอยู่ที่ปัจจุบันขณะอย่างแท้จริง เท่ากับว่าเอาชนะแสงได้ ความลับของมิติ ภพภูมิอื่นๆ ที่แสงเก็บซ่อนไว้จากตาเนื้อ จะถูกเปิดเผยออกมาให้เห็นอย่างแจ่มชัด เป็นการผุดรู้ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันขณะเจริญสติวิปัสสนากรรมฐาน ปลาที่อยู่ในตู้จะไม่รู้สึกว่า
กำลังถูกจองจำ เพราะตัวมันไม่สามารถแยยกออกมาจากน้ำได้ ถ้ามีปลาสักตัวสามารถออกมานอกตู้แล้วมองเข้าไป มันจะเข้าใจทันทีว่า เพื่อนๆ มันไม่ได้มีอิสระแต่อย่างใด เช่นเดียวกัน
มนุษย์ไม่รู้สึกว่ากำลังถูกจองจำ จนกว่าจะมีใครหลุดพ้นจากอิทธิพลของแสงและเวลา แล้วมองกลับเข้าไปจึงจะรู้ว่า เหล่าสรรพสัคว์ทั้งหลายล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย น่าเวทนายิ่งนักและสภาวะที่สามารถพ้นจากวงจรนี้มีอยู่จริง ซึ่งพระองค์ก็ทรงค้นพบแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น