หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2559

๕.๑ ถ้าเทียบอิทธิพลของดวงดาวคือความโน้มถ่วง เจ้าพ่อในจักรวาล
ก็คือดาวที่มีความโน้มถ่วงสูงกว่าดาวดวงอื่น แล้วดึงให้ดาวลูกหมุนโคจรอยู่รอบๆ ในระบบสุริยะเรามีดวงอาทิตย์เป็นผู้มีอิทธิพล แต่ดวง
อาทิตย์เองก็ต้องไปสวามิภักดิ์โคจรรอบหลุมดำ ในดาราจักรทางช้างเผือกจึงมีการหมุนวนย่อยๆ อยู่เต็มไปหมด แต่การหมุนวนที่เป็นหลักใหญ่ก็คือ การหมุนแบบย่อยๆทั้งหมดต้องโคจรรอบๆ หลุมดำที่อยู่เป็นแกน ณ จุดกึ่งกลางของดาราจักร
สมมติว่า ดวงอาทิตย์เป็นส้มโอที่วางบนผ้ายางขึงตึง จนเป็นรอยบุ๋มลงไป ถ้าดีดลูกแก้วเข้าไปจะพบว่า ลูกแก้วจะค่อยๆ หมุนวนรอบรอยบุ๋มนั้น แล้วเข้าไปหาส้มโอในที่สุด คำถามคือว่า แล้วทำไมโลกจึงไม่หมุนวนเข้าหาดวงอาทิตย์ นั่นก๊เพราะว่า ขณะที่ลูกแก้วหมุนจะถูกแรงเสียดทานจากพื้นทำให้ความเร็วตกลงเรื่อยๆ จึงหล่นเข้าหาส้มโอ แต่ในอวกาศไม่มีแรงเสียดทาน ความเร็วในการโคจรรอบดวงอาทิตยืไม่ตก ทำให้โลกหมุนอยู่ในระดับเดิมอยู่ตลอด
ภายในระบบสุริยะของเรา ดาวพฤหัสทรงอิทธิพลที่สุด ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของมัน ทำให้ความโน้มสูง กาล-อวกาศบริเวณนั้นบิดเบี้ยวเป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นผลดีโดยตรงต่อโลกของเรา
ดาวพฤหัสเป็นดาวเคราะห์วงนอก ขณะที่โลกเราอยู่วงใน
ดังนั้น เมื่อมีอุกกาบาตขนาดใหญ่ลอยเข้ามา จะถูกแรงโน้มถ่วง
จากดาวพฤหัสเหวี่ยงออกไป หรือไม่ก็ถูกดูดให้ตกลงที่พื้นผิว
ดาวพฤหัสเสียเอง อุกกาบาตขนาดใหญ่จากนอกระบบสุริยะจึงไม่สามารถเข้ามาทำร้ายดาวเคราะห์วงในได้ง่ายๆนัก อุกกาบาตใหญ่
สุดถูกสุดท้ายที่ตกลงสู่โลกคือ เมื่อ 65 ล้านปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ไดโนเสาร์ซึ่งครองโลกมานานกว่า 100 ล้านปีสูญพันธุ์ทั้งหมด
หลังจากนั้นโลกก็สงบสุข จนมีมนุษย์ขึ้นมาครองโลกแทนเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่ผ่านมา ถ้าเทียบกับช่วงเวลาที่ไดโนเสาร์สามารถครองโลกได้นับ 100 ล้านปีก่อนจะสูญพันธุ์ ซึ่งยาวนานมาก คำถามคือว่า มนุษย์สามารถทำลายสถิตินั้นได้หรือไม่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น