๕.๔
การเกิดสภาวะมีระเบียบเพิ่มขึ้นที่ระบบใด มันจะไปทำให้เกิด
สภาวะไร้ระเบียบเพิ่มมากขึ้นในสิ่งแวดล้อมหรือระบบใกล้
เคียง โดยสภาวะไร้ระเบียบที่เพิ่มขึ้นนั้น มากกว่าความมีระเบียบที่ได้มา ระยะเริ่มแรกของการสร้างจักรวาล จากสภาวะไร้ระเบียบ มาเป็นสภาวะที่มีดาราจักรหมุนวนเป็นกลุ่มๆ จะต้องคายพลังงานออกมามหาศาล โชดดีที่จักรวาลเรากำลังขยายตัวด้วยความเร็วสูงกว่าแสงทำให้อุณหภูมิของจักรวาลไม่สูงขึ้น
มิฉะนั้นความร้อนที่คายออกมาจะทำให้จักรวาลร้อนกว่าปัจจุบันมาก แม้ความโน้มถ่วงจะเป็นตัวจัดระเบียบจักรวาล แต่ก็ไม่มีอิทธิพลต่อการจัดระเบียบชีวิต ยังไม่มีการค้นพบทั้งในทางพุทธศาสตร์และวิทยาศาสตร์ว่า แรงโน้มถ่วงส่งผลต่อวิถีชีวิต
ดังนั้น หลักโหราศาสตร์พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก อังคารทับลักษณ์ จึงไม่น่าเกี่ยวข้องกับวิถีของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จะต้องวิจัยต่อไปว่า ความโน้มถ่วงมีผลต่อสมองหรือไม่ ถ้ามีผล อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ในคืน
ที่พระจันทร์เต็มดวงกับคืนที่ไร้จันทร์ อาจจะแตกต่างกัน และตัวแปรหรือยีนตัวใดที่ควบคุมการตอบสนองของสมองต่อแรงโน้มถ่วง ถ้าศึกษาถึงขึ้นนั้น อาจเป็นไปได้ว่า ความเชื่อที่ว่าดวงดาวไม่มีอิทธิพลต่อชีวิตอาจเปลี่ยนไปนอกจากความโน้มถ่วงจัดระเบียบโครงสร้างจักรวาลแล้ว ยังจัดระเบียบเวลาในจักรวาลด้วย เนื่องจากแสงตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของ
แรงโน้มถ่วง และแสงเป็นตัวกำหนดเวลา ดังนั้น ในดวงดาวใหญ่ที่แรงโน้มถ่วงสูง เวลาจะเดินช้าลง สำหรับในหลุมดำ
แรงโน้มถ่วงสูงสุดจนเวลาหยุดเดิน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าสู้หลุมดำเวลาจะหยุดด้วย หลุมดำทำตัวเสมือนเป็นเครื่องหยุดเวลาของจักรวาล สะสมมวลไว้เพื่อรอการระเบิดและพ่นมวลออกมาเป็นบิ๊กแบงสำหรับจักรวาลใหญ่ และค่อยเริ่มต้นนับเวลาอีกครั้ง
ถ้าจะมองตามหลักอิทัปปัจยตา ปฐมเหตุแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
อำนาจซึ่งทำให้จักรวาลเป็นไปนับบิ๊กแบงจนถึงปัจจุบัน ก็ คืออำนาจแห่งความโน้มถ่วงนั่นเอง มันทำให้เกิดดาวฤกษ์ เกิดธาตุหนักต่างๆขึ้นมา เกิดการหมุนวนของดวงดาว เกิดโครงสร้างของจักรวาล เกิดเวลา ดังนั้น ถ้านักวิทยาศาสตร์เข้าใจแรงโน้มถ่วง เหมือนกับที่ทุกวันนี้เราเข้าใจแรงแม่เหล็กหรือแรงไฟฟ้า ความลับของจักรวาลอีกมากมายมหาศาลจะถูกเปิดเผยออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องของการทะลุมิติการเหาะเหินเดินอากาศ การข้ามเวลา ร่นระยะทาง
จากการคำนวณ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ยิ่งมิติสูงขึ้นไปแรงโน้มถ่วงยิ่งน้อยลง แรงโน้มถ่วงในมิติที่ 4 จะน้อยกว่ามิติที่ 3 และมิติที่ 5 น้อยกว่ามิติที่ 4 ดังนั้น ถ้ามีสิ่งมีชีวิตในมิติที่สูงขึ้นไป การเหาะเหิน เดินอากาศ อาจจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร และเมื่อแรงโน้มถ่วงน้อย แสงจะเดินทางได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้เวลาในมิติที่สูงจะผ่านไปเร็ว ซึ่งสอดคล้องกับทางพระพุทธศาสนาที่บอกว่า เวลาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 1 ปีจะเท่ากับ 30,000 ปี ของโลกมนุษย์ โชดดีที่ความโน้มถ่วงของโลกทำให้ก๊าซออกชิเจนตกลงสู่พื้นในระดับที่เหมาะสม ถ้าแม้โลกมีความโน้มถ่วง
น้อยกว่านี้เพียงเล็กน้อยก๊าชออกชิเจนจะลอยตัวขึ้นสูง
สิ่งมีชีวิตก็จะเกิดขึ้นบนพื้นโลกไม่ได้ในทางตรงข้าม ถ้าโลกมีความโน้มถ่วงสูงไป ก็จะดูดก๊าชที่หนักกว่า เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไว้ที่พื้นโลกจำนวนมาก สิ่งมีชีวิตก็ถือกำเนิดขึ้นมาไม่ได้อีกเช่นเดียวกัน ดังนั้น การจะหาดวงดาวที่มนุษย์สามารถไปอยู่อาศัยได้ ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย นักวิทยาศาสตร์
บางคนถึงขนาดฟันธงว่าในจักรวาลนี้ไม่มีดวงดาวใด ที่เหมือนกับโลกนี้อีกแล้ว ไม่เฉพาะแรงโน้มถ่วงที่พอดี ถ้าโลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์แม้เพียง1% ของปัจจุบัน น้ำบนโลกก็จะจับตัว
เป็นน้ำแข็งไปหมด และถ้าโลกหมุนรอบตัวเองช้ากว่านี้
พิ้นผิวโลกฝั่งที่โดนแสงอาทิตย์ จะร้อนขนาดทำให้น้ำกลายเป็นไอ จะเห็นได้ว่า เป็นความพอดีที่เหลือเชื่อจริงๆ
Lucky Club Casino Site - Live! Casino UK
ตอบลบLogin · luckyclub.live Contact Us · Login · Sign Up · Get Started · About Us · UK Payments and Contacts