๖.๓
ถ้าเปรียบกับรถมอเตอร์ไซค์ไต่ถัง โดยให้ผนังของถังเป็นความโค้งของอวกาศ บริเวณดาวพุธผนังของถังจะตั้งฉาก ดังนั้น มอเตอร์ไซค์
ต้องทำความเร็วสูงมากเพื่อจะได้ไม่ถูกดูดตกลงก้นถัง ในขณะที่บริเวณของโลกเรา ผนังของถัง (หรือความโค้งของอวกาศ) จะบานออกเป็นรูปตัว V และยิ่งไกลออกไป ตัว V จะชันน้อยลงเรื่อยๆ จนถึงดาวพลูโตมันแทบจะบานออกเป็นเส้นตรงเลยทีเดียว ทำให้ดาวพลูโตเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเพียงนิดเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะไม่ถูกดูดตกลงสู่ก้นถัง (ซึ่งเปรียบเสมือนตำแหน่งดวงอาทิตย์) และเมื่อพ้นจากดาวพลูโตออกไปผนังของถังก็จะแบนราบเป็นเส้นตรง นั่นหมายความว่า
อิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่ทำให้อวกาศโค้งหมดไป
ในกรณีที่แม้เคลื่อนที่แล้ว ก็ยังไม่สมดุลกับกาล-อวกาศที่บิดเบี้ยวดวงดาวนั้นจะต้องหมุนรอบตัวเองด้วย เพื่อให้ความเร็วในการหมุนรอบตัวเองช่วยทำให้เวลาบนพื้นผิวเดินช้าลงไปอีก จะได้สัมพันธ์
กับกาล-อวกาศ ณ จุดนั้น ถ้าเปรียบจากรถมอเตอร์ไซค์เป็นลูกเหล็กไต่ถังแทน จะพบว่าถ้าขณะที่หมุนรอบถัง ลูกเหล็กลูกนั้นหมุนรอบตัวเองไปด้วย มันจะสามารถทำความเร็วในการไต่ถังลดลงได้เล็กน้อยโดยที่ไม่ตกลงสู้ก้นถัง(วิเคราะห์จากกฎของนิวตันคือ มันมีโมเมนตัมเชิงมุม แต่ถ้าวิเคราะห์จากทฤษฎีของไอน์สไตน์คือ การหมุนทำให้เวลาเดินช้าลง) ดาวบนดวงที่ความหนาแน่นของมวลไม่เท่ากัน
เช่น ดวงจันทร์และดาวพุธ จะมีมวลด้านหนึ่งหนาแน่นมากกว่า มวลที่มากกว่าทำให้เวลาที่พื้นผิวด้านนั้นเดินช้ากว่าอีกด้าน เวลาโคจรรอบดาวแม่มันจึงหันด้านที่มวลมากเข้าหาดาวแม่อยู่ตลอดเวลา
(เราจึงไม่มีโอกาสได้เห็นดวงจันทร์อีกด้านหนึ่งเลย) และเอาด้านที่มวลน้อยห่างออกจากดาวแม่ เนื่องจากยิ่งใกล้ดาวแม่เวลายิ่งเดินช้า มันจึงต้องหันด้านที่มีมวลมากเข้า เพราะมวลยิ่งมากเวลาก็เดินช้าลงเช่นกัน ทำให้สอดคล้องกับกาลในบริเวณนั้น
ดังนั้น ถ้าอยู่ๆ โลกหยุดหมุน จะเกิดสึนามิขนาดใหญ่ทั่วโลกเพราะมวลของน้ำทะเลจะพยายามรักษาความเร็วที่ทำให้เวลาเท่ากับกาล-อวกาศเดิม นั่นคือน้ำไม่หยุดด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น